LIB Talks Daily Notes
การเปลี่ยนจาก บริษัทย่อย เป็น บริษัทร่วม ดียังไง !?
ขยายประเด็น LIB TALKS 16/08/2024
หลังจาก CPF ประกาศงบออกมา ผลประกอบการดีกว่าตลาดคาดมาก ๆ 1 ในสาเหตุที่กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้นคือ การโครงสร้างการลงทุนโดยเปลี่ยนจากบริษัทย่อย เป็นบริษัทร่วม
แอดมินก็ได้ถามน้าแดงและพี่เซียงเกี่ยวกับเหตุดังกล่าว รวมถึงไปค้นคว้าเพิ่มเติมมา จึงอยากจะมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ฟัง
บริษัทย่อย คือ กิจการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่ลงทุนตั้งแต่ 50% ขึ้น (หรือน้อยกว่า 50% แต่มีอำนาจในการควบคุมกิจการ) ต้องทำงบการเงินรวม (Consolidated)
บริษัทร่วม คือ กิจการถือหุ้นในบริษัทที่ลงทุนระหว่าง 20% ถึง 50% ผลประกอบการของบริษัทร่วมจะเข้ามาที่บรรทัดกำไรขาดทุน
ทั้งนี้น้าแดงอธิบายเพิ่มเติมว่า สิ่งที่นักลงทุนจะเห็นคือ งบ Consolidated รายได้จะลดลง (ไม่ต้องจับชน) แต่จะเห็นบริษัทร่วมผ่าน กำไรจากเงินลงทุนในบริษัทย่อยแทน (Share profit from associated company) ในบรรทัดเดียวเลย ไม่กำไรก็ขาดทุน
ในแง่ของบริษัทใหญ่
จะดีเมื่อบริษัทเล็กเป็นเนื้อร้าย การรวมเข้ามาทำให้อัตราส่วนทางการเงิน ต่าง ๆ ไม่สวย เช่น อัตรากำไรขั้นต้นจะลดลง (Gross profit margin) และ D/E เพิ่มสูงขึ้น
จะแย่ ถ้าเราไปลดสัดส่วนการถือในสิ่งที่ดี ๆ นั่นเอง แต่บางบริษัทก็ชอบถือแบบ associate เพื่อ Cross synergy กันก็มี เช่น MASTER EPG
สุดท้ายต้องเอาตัวเลข Size กับ Strategy ของบริษัทมาพิจารณา นักลงทุนต้องเข้าใจกระบวนการทางบัญชี
นอกจากนี้พี่เซียงอธิบายเพิ่มเติมว่า CPF มีการโครงสร้างการถือหุ้นภายในจีนเพื่อเตรียมนำ CTI เข้าจดทะเบียนในตลาดเซี่ยงไฮ้มาตั้งแต่ปี 2564 โดยปัจจุบัน CPF ถือ CTI ซึ่งลงทุนหมูในจีน 26% และจะรับรู้แค่ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาบรรทัดเดียวในงบการเงิน
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่งบการเงินของ CPF ดีขึ้น
หวังว่านักลงทุนจะเข้าใจและมีความสุขในการลงทุนเพิ่มครับ
┌────────────────┐
เรียนรู้การลงทุน กับ Liberator ได้ที่นี่
└────────────────┘