เช็คเทรนดฺ์แกร่งแค่ไหน ทิศทางราคาจะเป็นอย่างไร ด้วย "𝐃𝐌𝐈"
[ 𝐃𝐢𝐫𝐞𝐜𝐭𝐢𝐨𝐧𝐚𝐥 𝐌𝐨𝐯𝐞𝐦𝐞𝐧𝐭 ] กับ โค้ชบาส อภิวัฒน์
 
🧿หนึ่งในเครื่องมือยอดฮิต ที่มีเลือกใช้ Indicator on chart
บนแอพ Liberator ทั้งบนมือถือ และ Liberator for PC
 
🔹Directional Movement หรือ (DMI) เป็นเครื่องมือที่ประกอบด้วย Indicator จำนวน 3 ตัวได้แก่ Average Directional Index (ADX), Plus Directional Indicator (+DI) and Minus Directional Indicator (-DI)
 
ถูกคิดค้นโดย J. Welles Wilder เจ้าของหนังสือ New Concepts in Technical Trading Systems ที่ถูกเผยแพร่เมื่อปี 1978 ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่สร้าง Indicator ชื่อดังอย่าง RSI, ATR และ Parabolic SAR
 
โดยที่ ADX ใช้ดูแนวโน้มของราคาว่า ราคาช่วงนั้นเป็น Trend หรือเป็น Sideway (ไม่ได้บอกทิศทางของราคา) ส่วน +DI และ -DI ไว้ใช้ร่วมกับ ADX เพื่อดูทิศทางการแกว่งตัวของราคาอีกที
 
 
🔹หลักการพื้นฐาน
📍DMI จะเคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 0 - 100 โดย
📍ADX จะใช้ดูความแข็งแกร่งของเทรน ส่วน
📍+DI และ -DI ใช้ดูทิศทางของราคา
ซึ่งเราสามารถจับจังหวะการเทรดจากการดูค่าดังกล่าว
 
📍โดยทั่วไปในช่วงที่แนวโน้มแข็งแกร่ง ADX จะมีค่ามากกว่า 25
ช่วงที่ +DI มีค่ามากกว่า -DI แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Market)
ช่วงที่ -DI มีค่ามากกว่า +DI แสดงถึงแนวโน้มขาลง (Bearish Market)
 
🔹ความแข็งแกร่งของเทรนด์ (Trend Strength)
การดูความแข็งแกร่งของเทรน คือ การดูว่าช่วงนั้นเป็นเทรน หรือ เป็น Sideway ให้ใช้ค่า ADX ในการดู (ไม่ดู +DI และ -DI) โดย Wilder เชื่อว่า
ในช่วงที่ ADX ***อยู่สูงกว่าระดับ 25 แสดงถึงแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และ
ในขณะที่ ADX ***น้อยกว่า 20 แสดงถึงความไม่เป็นเทรนในช่วงนั้น หรือ Sideway นั่นเอง
 
🔹การตัดของ +DI และ -DI
DI Crossovers เป็นสัญญาณการเทรดของเครื่องมือตัวนี้ โดยจะมีเงื่อนไขเฉพาะตัวบางอย่างในขณะที่เส้น +DI และ -DI ตัดกัน
 
📍Bullish DI Cross : ประกอบด้วย
1. ADX ต้องมีค่ามากกว่า 25 (แสดงถึงภาวะความเป็นเทรนด์)
2. +DI ตัด -DI ขึ้น
3. ตั้ง Stop loss ที่ Low ของแท่ง
📍Bearish DI Cross : ประกอบด้วย
1. ADX ต้องมีค่ามากกว่า 25 (แสดงถึงภาวะความเป็นเทรนด์)
2. -DI ตัด +DI ลง
3. ตั้ง Stop loss ที่ High ของแท่ง
 
📍Sideway
ในภาวะที่ตลาดเป็น Sideway โดยค่า ADX มักจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 20 เราสามารถจับหวะการเทรดในช่วงนี้ได้ โดยอาจจะใช้เป็นการ Trading ระยะสั้น หรือ ใช้ประกอบกับเครื่องมืออื่นที่เหมาะกับการเทรดภาวะ Sideway ก็จะเสริมประสิทธิภาพการเทรดช่วงนี้มากยิ่งขึ้น
 
🔹การนำมาเทรด
📍Indicator [ DMI ] มี 3 เส้นในตัว ได้แก่ : (ADX) (+DI) (-DI)
ADX ดูแค่ มากกว่า หรือ น้อยกว่า 25 ถ้ามากกว่า 25 = หากเกิดแนวโน้ม จะค่อนข้างแข็งแกร่ง
ADX ถ้าน้อยกว่า 20 = แนวโน้มอาจเป็น Side way หรือ ยังไม่เป็นเทรนด์
 
📍เมื่อพอคาดการณ์ความแข็งแกร่งได้แล้ว จึงมามองหาทิศทางว่ามีโอกาส ขึ้น – ลง จาก (+DI) (-DI)
 
การตัดกันของเส้น +DI และ -DI ช่วยบอกทิศทาง และ สัญญาณกลับตัว
+DI ตัดขึ้น -DI = แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น หรือ สัญาณการกลับตัวขึ้น Bullish Divergence
+DI ตัดลง -DI = แสดงถึงแนวโน้มขาลง หรือ สัญญาณการกลับตัวลง Bearish Divergence
 
📍ซึ่งถ้ารวมพลังทั้ง 2 ส่วนนี้ จะช่วยในการ หาจุดซื้อ + ตัดสินใจถือ/ไม่ถือ ได้ด้วยนะ
จับสัญญาณซื้อ ขาย
+DI ตัดขึ้น -DI = สัญญาณซื้อ (ระวัง false signal)
+DI ตัดลง -DI = สัญญาณขาย (ระวัง false signal)
 
ตัดสินใจถือต่อ ?
ADX ยังสูงกว่า 25 เทรนด์นั้นยังแข็งแกร่ง
ADX เริ่ม หรือ หักต่ำกว่า 25-20 เทรนด์เริ่มอ่อนกำลัง
 
🔹โค้ชบาสสรุปให้
Directional Movement (DMI) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ สามารถบอกได้ทั้งความเป็นเทรน และทิศทางการแกว่งตัวของราคา โดยอาจไม่ใช่ Indicator ที่ใช้ง่านง่ายในชีวิตจริง แต่หากเทรดเดอร์หมั่นศึกษา ทำความเข้าใจ หรือมีการปรับแต่งมัน ก็จะสามารถใช้ประสิทธิภาพในการเทรดได้ดี
 
อย่างไรก็ดี เทรดเดอร์ไม่ควรใช้ค่า 25 และ 20 ในการตัดสินทุกสถานการณ์ เพราะบางสินทรัพย์อาจจะไม่ได้ใช้ค่าดังกล่าวในการตัดสินใจ ควรดูพฤติกรรมในอดีตประกอบการตัดสินใจด้วย
 
หนึ่งสิ่งสำคัญที่ควรตระหนัก คือ Wilder ได้พัฒนาเครื่องมือนี้มาใช้กับพวก Forex และ Commodities ซึ่งสินค้าเหล่านี้มักมีความผันผวน และมีความเป็นเทรน มากกว่าหุ้น ดังนั้นหากไปใช้สินทรัพย์การเทรดอื่น ก็ควรใช้ระดับที่เหมาะสมกับสินทรัพย์นั้น